การเริ่มต้นโครงการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบ้าน ต่อเติมบ้าน หรือรีโนเวทบ้านครั้งใหญ่ สิ่งหนึ่งที่เจ้าของบ้านและผู้ออกแบบควรให้ความสำคัญสูงสุดคือการหาผู้รับเหมาที่มีคุณภาพ เพราะผู้รับเหมาเป็นผู้แปลงแบบแผนให้เป็นความจริง เป็นหัวใจสำคัญที่กำหนดคุณภาพ งบประมาณ และระยะเวลาของโครงการทั้งหมด
ในฐานะผู้รับเหมาก่อสร้างหรือบริษัทผู้รับเหมาเองก็ต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในบทบาท หน้าที่ และประเภทของตนเอง เพื่อนำเสนอความเชี่ยวชาญให้กับลูกค้าได้อย่างมืออาชีพ บทความนี้ Aron Material จะพาไปเจาะลึกว่า ผู้รับเหมาสร้างบ้านคือใคร มีกี่ประเภท และมีแนวทางในการเลือกอย่างไรให้ได้มืออาชีพที่ตอบโจทย์กับโครงการอย่างแท้จริง
Key Takeaway
- ผู้รับเหมาคือบุคคลหรือนิติบุคคลที่ทำสัญญาเพื่อรับผิดชอบและควบคุมงานก่อสร้างตามแบบและข้อกำหนด
- การเลือกผู้รับเหมาที่ดีต้องพิจารณาจากคุณสมบัติ 7 ข้อสำคัญ เช่น การจดทะเบียนนิติบุคคล ผลงานที่ชัดเจน และการรับประกันหลังจบงาน
- ผู้รับเหมางานระบบ เช่น ผู้รับเหมางานระบบไฟฟ้า หรือ ผู้รับเหมางานระบบปรับอากาศ มักเป็นส่วนที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางสูง
ผู้รับเหมาคือใคร?
ผู้รับเหมา (Contractor) คือบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ทำสัญญาตกลงกับเจ้าของบ้านหรือผู้ว่าจ้าง เพื่อรับผิดชอบในการดำเนินงานก่อสร้างบ้าน ต่อเติมบ้าน ตกแต่งภายในบ้าน หรือซ่อมแซม โดยดำเนินการตามแบบ สเปกวัสดุ และข้อกำหนดที่ตกลงกันไว้ ซึ่งขอบเขตงานมีตั้งแต่การจัดการด้านแรงงาน วัสดุ อุปกรณ์ รวมถึงการควบคุมงานให้เป็นไปตามมาตรฐานและความปลอดภัยที่กำหนด
ผู้รับเหมาทำงานให้กับผู้ว่าจ้างหรือลูกค้า โดยอาจเป็นเจ้าของบ้านที่ต้องการหาผู้รับเหมาก่อสร้างบ้าน อาคารสำนักงาน หรือผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ หน้าที่หลักคือการนำความรู้ ความเชี่ยวชาญ และทรัพยากรมาจัดการโครงการให้สำเร็จลุล่วงตามกำหนดเวลาและงบประมาณ
หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้รับเหมา
การเป็นผู้รับเหมาไม่ได้มีเพียงการก่อสร้างเท่านั้น แต่ยังมีความรับผิดชอบครอบคลุมในหลายมิติ ดังนี้
- การบริหารจัดการโครงการ : วางแผนงาน กำหนดตารางเวลา ควบคุมงบประมาณ และจัดหาทรัพยากร
- การจัดซื้อจัดจ้าง : จัดหาวัสดุที่มีคุณภาพ เช่น ระแนงเหล็ก หรือ ระแนงไม้เทียม และคัดเลือก ผู้รับเหมาช่วง (Subcontractor) ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
- การควบคุมคุณภาพ : ตรวจสอบให้แน่ใจว่างานที่ทำออกมาได้มาตรฐานตรงตามแบบแปลน และกฎหมายการก่อสร้าง
- การควบคุมความปลอดภัย : จัดการสภาพแวดล้อมในการทำงานให้ปลอดภัยต่อแรงงาน และบุคคลภายนอก
- การประสานงาน : ทำงานร่วมกับผู้ออกแบบ วิศวกร และเจ้าของบ้าน เพื่อแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
- การรายงานความคืบหน้า : รายงานสถานะโครงการต่อเจ้าของบ้านอย่างสม่ำเสมอ
- งานเฉพาะทาง : สำหรับผู้รับเหมางานระบบ ต้องรับผิดชอบการติดตั้งระบบสำคัญ เช่น ผู้รับเหมางานระบบปรับอากาศ ผู้รับเหมางานระบบไฟฟ้า หรือแม้แต่งานรื้อถอนเดิม
ผู้รับเหมามีกี่ประเภท เลือกแบบไหนให้ตอบโจทย์
เมื่อต้องหาผู้รับเหมา การรู้จักประเภทของผู้รับเหมาจะช่วยให้เจ้าของบ้านเลือกคนที่เหมาะสมกับขนาดและความซับซ้อนของโครงการได้ โดยสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้
1. ผู้รับเหมาแบบนิติบุคคล
ผู้รับเหมาแบบนิติบุคคล คือบริษัทผู้รับเหมาที่จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน มีโครงสร้างการบริหารที่ชัดเจน มีบุคลากรหลากหลายตำแหน่ง เช่น วิศวกร สถาปนิก ผู้จัดการโครงการ และมีทีมงานที่แข็งแกร่ง มักรับงานผู้รับเหมาต่อเติมบ้านหรือก่อสร้างขนาดใหญ่และซับซ้อน
2. ผู้รับเหมารายย่อย
ผู้รับเหมารายย่อย เป็นกลุ่มผู้รับเหมาขนาดกลางถึงเล็ก อาจจดทะเบียนในรูปแบบห้างหุ้นส่วนหรือไม่ได้จดทะเบียนก็ได้ มักมีทีมงานและเครื่องมือพร้อมแต่มีขีดจำกัดในการรับงานขนาดใหญ่ มักเชี่ยวชาญงานเฉพาะด้าน เช่น ผู้รับเหมาต่อเติมบ้าน ผู้รับเหมารื้อถอน หรือ ผู้รับเหมารีโนเวทบ้าน
3. ผู้รับเหมารายบุคคล
ผู้รับเหมารายบุคคล คือผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์สูง ทำงานในนามส่วนตัว หรือมีทีมช่างขนาดเล็ก มักเชี่ยวชาญในงานที่ต้องใช้ฝีมือเฉพาะทาง และเหมาะกับงานขนาดเล็ก งานซ่อมแซม ติดตั้งรั้วบ้าน หรือการกรุผนังที่ไม่ซับซ้อนมาก
เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของผู้รับเหมาแต่ละประเภท
การตัดสินใจเลือกผู้รับเหมานั้น ขึ้นอยู่กับงบประมาณ ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และความซับซ้อนของโครงการ นี่คือตารางเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียเพื่อช่วยในการตัดสินใจ
ตารางเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของผู้รับเหมาแต่ละประเภท
ประเภทผู้รับเหมา | ข้อดี | ข้อเสีย |
ผู้รับเหมานิติบุคคล |
|
|
ผู้รับเหมารายย่อย |
|
|
ผู้รับเหมารายบุคคล |
|
|
ผู้รับเหมาแบบครบวงจรกับไม่ครบวงจร ต่างกันอย่างไร?
เมื่อหาผู้รับเหมาสร้างบ้าน เจ้าของบ้านมักจะพบกับคำว่า ‘ครบวงจร’ และ ‘ไม่ครบวงจร’ ซึ่งมีความแตกต่างในการดำเนินงานดังนี้
ผู้รับเหมาะแบบครบวงจรคือผู้รับเหมาที่ให้บริการตั้งแต่การออกแบบจนถึงการก่อสร้าง หรือที่เรียกว่า One-Stop Service
- ข้อดี : ประหยัดเวลาในการประสานงาน เพราะมีทีมงานชุดเดียวจบ ตั้งแต่ผู้ออกแบบไปจนถึงผู้รับเหมาก่อสร้าง ทำให้การสื่อสารและแก้ปัญหารวดเร็ว
- ข้อเสีย : เจ้าของบ้านอาจมีตัวเลือกด้านการออกแบบน้อยลง และค่าใช้จ่ายรวมมักจะสูงกว่าการแยกจ้าง
ผู้รับเหมาะแบบไม่ครบวงจรคือผู้รับเหมาที่รับผิดชอบเฉพาะงานก่อสร้างเท่านั้น
- ข้อดี : เจ้าของบ้านมีอิสระในการเลือกผู้ออกแบบและผู้รับเหมาแยกกัน ทำให้สามารถควบคุมการออกแบบและงบประมาณการก่อสร้างได้ชัดเจนขึ้น
- ข้อเสีย : การประสานงานระหว่างผู้ออกแบบและผู้รับเหมาอาจเกิดความล่าช้าหรือความผิดพลาดได้ง่าย
7 แนวทางการเลือกใช้บริการผู้รับเหมาที่ดี
การได้ผู้รับเหมาที่ดีคือความสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่งของโครงการ เจ้าของบ้านหรือผู้ออกแบบควรใช้ Checklist ในการพิจารณาเลือกใช้บริการผู้รับเหมา โดยเฉพาะการหาผู้รับเหมาก่อสร้างที่น่าเชื่อถือ ยกตัวอย่างดังนี้
1. จดทะเบียนนิติบุคคล
การเลือกผู้รับเหมาที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความมั่นคงในการดำเนินงาน รวมถึงมีข้อกฎหมายรองรับที่ชัดเจนกว่า
2. มีตัวอย่างผลงานให้ดูชัดเจน
ควรขอดูผลงานที่ผ่านมาของผู้รับเหมา โดยเฉพาะงานที่คล้ายกับโครงการที่กำลังจะทำ เช่น การทำรั้วระแนง หรือทำประตูรั้วหน้าบ้าน เพื่อประเมินคุณภาพและความเชี่ยวชาญ
3. มีการประเมินราคา และระยะเวลา
ผู้รับเหมาที่ดีต้องประเมินราคาอย่างสมเหตุสมผล และกำหนดระยะเวลาการทำงานที่ชัดเจนและเป็นไปได้จริง
4. ใช้วัสดุที่มีคุณภาพ
ตรวจสอบสเปกวัสดุที่ผู้รับเหมาเสนอให้ใช้ เช่น วัสดุสำหรับทำรั้วบ้าน ต้องมีมาตรฐาน และไม่พยายามลดเกรดวัสดุเพื่อลดต้นทุนเกินความจำเป็น
5. มีการสื่อสารที่ดี ติดตามผลงานได้สม่ำเสมอ
ผู้รับเหมาควรมีการรายงานความคืบหน้าอย่างสม่ำเสมอ และสามารถติดต่อได้ตลอดเวลาเพื่อแก้ไขปัญหาหรือข้อสงสัยของเจ้าของบ้าน
6. แก้ปัญหาหน้างานได้รวดเร็ว
คุณสมบัติที่สำคัญของผู้รับเหมาก่อสร้างคือการมีทักษะในการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างทันท่วงที เช่น เมื่อเกิดปัญหาในการติดตั้งไม้ระแนงตกแต่งผนัง ควรหาวิธีแก้ไขปัญหาและแจ้งกับเจ้าของบ้านอย่างชัดเจน
7. มีการรับประกันผลงาน
ผู้รับเหมาที่มีความรับผิดชอบจะต้องมีการรับประกันงานหลังจากส่งมอบงาน (Defect Liability Period) เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของบ้านว่าหากเกิดปัญหาจะได้รับการแก้ไข
การเลือกผู้รับเหมาที่ใช่คือจุดเริ่มต้นของโครงการที่สำเร็จ
การเลือกผู้รับเหมาถือเป็นก้าวที่สำคัญที่สุดในการเริ่มต้นโครงการก่อสร้างทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นการหาผู้รับเหมาสร้างบ้าน ผู้รับเหมาต่อเติมบ้าน หรือผู้รับเหมางานระบบ การเข้าใจว่าผู้รับเหมาคือใคร มีคุณสมบัติอย่างไร และจะเลือกจากแนวทางไหน จะช่วยให้เจ้าของบ้านได้ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถดำเนินโครงการให้สำเร็จได้ตามแผนงาน และหลีกเลี่ยงปัญหาการทิ้งงาน
Aron Material เข้าใจดีว่าคุณภาพของวัสดุที่ผู้รับเหมาเลือกใช้มีผลโดยตรงต่อคุณภาพของผลงานที่ส่งมอบ หากผู้รับเหมาหรือผู้ออกแบบท่านใดกำลังมองหาวัสดุที่มีคุณภาพสูง ทนทาน และมีดีไซน์สวยงามเพื่อยกระดับงานก่อสร้างและตกแต่งภายในบ้าน โดยเฉพาะวัสดุตกแต่งภายนอก เช่น ระแนงเหล็กลายไม้ หรือระแนงไม้เทียม เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุที่พร้อมสนับสนุนผู้รับเหมาด้วยสินค้าที่มีคุณภาพ สามารถเข้าชมสินค้าที่เว็บไซต์ Aron Material เพื่อดูข้อมูลและติดต่อโดยตรงเพื่อนำไปใช้ในการก่อสร้างหรือตกแต่งโครงการต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจ
ดูข้อมูล หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
- Website: Aron Material
- Facebook: Aron – Decorative Steel ระแนงเหล็กลายไม้
- LINE: @roovtect
- Tel: 02 0963464
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเลือกผู้รับเหมา
ตรวจสอบประวัติผู้รับเหมาได้อย่างไร?
เริ่มจากการตรวจสอบเอกสารการจดทะเบียนนิติบุคคลและใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ขอดูตัวอย่างผลงานที่ผ่านมา รีวิวทางออนไลน์ นอกจากนี้ควรตรวจสอบว่าผู้รับเหมามีประกันภัยความรับผิดและการรับประกันผลงานที่ชัดเจนหรือไม่ร่วมด้วย
ผู้รับเหมากับช่างแตกต่างกันอย่างไร?
ผู้รับเหมาคือผู้ที่รับผิดชอบและบริหารจัดการโครงการทั้งหมด รวมถึงการบริหารสัญญา งบประมาณ การจัดหาวัสดุ และการควบคุมคุณภาพ ส่วนช่างคือผู้ปฏิบัติงานตามคำสั่งของผู้รับเหมา ซึ่งเน้นไปที่การใช้ฝีมือในการทำงาน ก่อสร้าง หรือติดตั้งเป็นหลัก